วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ศูนย์การทหารราบ รับสมัครทหารกองหนุนเพื่อเข้ารับราชการ


ศูนย์การทหารราบ มีความประสงค์จะรับสมัครทหารกองหนุนเพื่อเข้ารับการฝึกอบรม และบรรจุ เข้ารับราชการเป็นนายทหารประทวน (อัตรา ส.อ.) ของหน่วยในส่วนกาลังรบ (เหล่าทหารราบ) จำนวน 200 อัตราบรรจุใน 1 พฤษภาคม 2556 ในปีงบประมาณ 2556 นี้
เพื่อให้ผู้ที่มีความประสงค์จะสมัครสอบคัดเลือกได้ทราบถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ ในการสอบครั้งนี้ ศูนย์การทหารราบ จึงได้จัดทำระเบียบการสอบคัดเลือกทหารกองหนุนเพื่อบรรจุเข้ารับราชการเป็นนายทหารประทวน (อัตรา ส.อ.) ของหน่วยในส่วนกำลังรบ (เหล่าทหารราบ) ประจาปี 2556 ขึ้นมา เพื่อจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเตรียมการสอบ รวมทั้งเป็นการแจ้งเตือนผู้สมัครสอบมิให้ไปหลงเชื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด ที่แอบอ้างว่าจะช่วยเหลือในการสอบได้ และหากผู้สมัครสอบได้พบเห็นพฤติกรรมใด ๆ ที่ส่อไปในทางทุจริตหรือประสงค์จะให้ข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์ในการดาเนินงาน โปรดแจ้งไปที่ ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อาเภอ ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77160
ข้อ 1. ความมุ่งหมาย
กองทัพบก มีความประสงค์จะรับสมัครสอบคัดเลือกทหารกองหนุน เพื่อฝึกอบรม และบรรจุเข้ารับราชการเป็นนายทหารประทวน (อัตรา ส.อ.) ของหน่วยในส่วนกำลังรบ (เหล่าทหารราบ) เพื่อบรรจุลงในตำแหน่ง หัวหน้าชุดยิง (ชกท.111) ในหน่วยต่าง ๆ ทั่วประเทศ จานวน 200 อัตรา บรรจุใน 1 พฤษภาคม 2556 โดยมอบหมายให้ ศูนย์การทหารราบ เป็นผู้ดำเนินการ

ข้อ 2. คุณสมบัติของผู้สมัครสอบคัดเลือก
2.1 เป็นทหารกองหนุนที่เคยรับราชการเป็นทหารกองประจำการในสังกัดกองทัพบก เหล่าทหารราบ อย่างน้อย 1 ปี หรือเป็นทหารกองประจำการที่รับราชการในสังกัดกองทัพบก เหล่าทหารราบ มแล้วอย่างน้อย 1 ปีและ ครบกาหนดปลดเป็นทหารกองหนุนชั้นที่ 1 ใน 30 เม.ย. 56 โดยมีอายุไม่เกิน 25 ปี (ไม่รับสมัครทหารกองหนุนที่สาเร็จการศึกษาหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหาร และทหารกองประจำการที่สมัครรับราชการต่อ)
2.2 สาเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า จากสถานศึกษาที่สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.), สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนให้การรับรอง (ไม่รับสมัครผู้ที่รอผลการศึกษา)
2.3 ไม่มีโรคที่ขัดต่อการรับราชการ มีอวัยวะ รูปร่าง ลักษณะท่าทาง และขนาดร่างกายเหมาะสมแก่การเป็นทหาร และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม
2.4 เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการขอแต่งตั้งยศเป็นนายทหารประทวน ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการแต่งตั้งยศทหาร พ.ศ. 2507 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม
2.5 มีสัญชาติไทยและบิดามารดามีสัญชาติไทยโดยกาเนิด แต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตร หรือนายทหารประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกาเนิดแล้ว มารดาจะมิใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยกาเนิดก็ได้
2.6 เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2.7 ไม่เป็นผู้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือเป็นบุคคลล้มละลายตามคาพิพากษา
2.8 ไม่อยู่ในสมณเพศ
2.9 ไม่เป็นผู้ที่เคยต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลในคดีอาญา ยกเว้นแต่ความผิดฐานประมาทหรือลหุโทษ
2.10 ไม่เคยเป็นผู้ถูกปลดเพราะความผิด หรือถูกไล่ออกจากราชการ
2.11 ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีงาม
2.12 ไม่เคยทุจริตในการสมัครสอบหรือการสอบคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการทหารมาก่อน

ข้อ 3. ข้อกำหนด
3.1 ผู้ที่มีคุณวุฒิสูงกว่าที่กาหนดไว้ในข้อ 2.2 จะใช้คุณวุฒิต่าง ๆ ที่สูงกว่านั้นมาเรียกร้องสิทธิบรรจุตามคุณวุฒิที่ตนมีอยู่ไม่ได้
3.2 เมื่อผ่านการสอบคัดเลือกแล้วจะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นนายทหารประทวน ตำแหน่ง ประจำ ศูนย์การทหารราบ ตั้งแต่ 1 พ.ค. 56 โดยได้รับยศ สิบตรี (อัตราเงินเดือน ป.1 ชั้น 8.5) ซึ่งจะได้รับเงินเดือน รวมค่าครองชีพ เป็นเงิน 9,000.- บาท/เดือน และได้รับเครื่องแต่งกายตามที่กองทัพบกกำหนด
3.3 เมื่อได้รับการบรรจุแต่งตั้งยศ ตามข้อ 3.2 แล้ว จะต้องเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้นประมาณ 5 เดือน (20 สัปดาห์) หลังจากสำเร็จการฝึกอบรมแล้วจะได้รับการพิจารณาปรับย้ายไปรับราชการในกองพันต่าง ๆ ของส่วนกำลังรบตามผลการฝึกอบรม และความเหมาะสม กรณีไม่สาเร็จการฝึกอบรม กองทัพบกจะดำเนินการตามมาตรการทางการปกครอง ทางวินัย หรืออาจจะดาเนินการให้ออกจากราชการก็ได้
3.4 กรณีการตรวจสอบวุฒิการศึกษา และประวัติอาชญากรรม หากตรวจพบภายหลังว่าไม่ถูกต้อง ตามข้อ 2 จะถูกปลดออกจากราชการทันที

ข้อ 4. หลักฐานการรับสมัครสอบ ให้ยื่นเอกสารประกอบการสมัครสอบฉบับจริงพร้อมสำเนาอย่างละ 3 ฉบับ โดยผู้สมัครสอบเขียนคำรับรองตนเองว่า (สำเนาถูกต้อง) แล้วลงชื่อกำกับไว้ เมื่อกรรมการรับสมัครตรวจสอบเอกสารแล้วจะส่งฉบับจริงให้กลับคืน จะเก็บไว้เป็นหลักฐานเฉพาะฉบับสำเนาเท่านั้น โดยมีหลักฐานดังนี้
4.1 รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวกและแว่นตา ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 6 รูป และขนาด 1 นิ้ว จำนวน 6 รูป (ถ่ายไม่เกิน 3 เดือน)
4.2 หลักฐานการศึกษา (ใบสุทธิ ระเบียนแสดงผลการศึกษาหรือใบประกาศนียบัตร)
4.3 สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัคร, บิดา และมารดาพร้อมตัวจริง
4.4 บัตรประจำตัวประชาชนผู้สมัคร
4.5 หนังสือสำคัญ สด.3 หรือ สด.8
4.6 ใบสำคัญทางการแพทย์ทหาร (ทบ.466-620) ให้แพทย์ระบุว่า “ไม่เป็นโรคที่ขัดต่อการรับราชการทหาร” ที่ออกโดย รพ.ของทหาร เท่านั้น
4.7 หลักฐานอื่น เช่น การเปลี่ยนชื่อ – สกุล
4.8 หนังสือรับรองผู้บังคับบัญชา
4.9 หลักฐานตามข้อ 4.2 ถึงข้อ 4.7 ถ่ายเอกสารใช้กระดาษขนาด เอ 4 อย่างละ 3 ฉบับ และนำฉบับจริงมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่รับสมัครด้วย
4.10 รายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ สอบถามได้ที่ กองกำลังพล ศูนย์การทหารราบ หมายเลขโทรศัพท์
0 3254 2468, 0 3254 2455 – 8 ต่อ 54018, 54113 หรือทาง www.infantry-center.com

ข้อ 5. กำหนดการรับสมัครสอบ
5.1 รับใบสมัครและสมัครสอบ ในวันที่ 25 – 31 ม.ค. 56 เวลา 08.00 น. - 16.30 น. ณ แหล่งสมาคมนายทหารค่ายธนะรัชต์ (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)
5.2 กำหนดการรับสมัครนอกสถานที่ ดังนี้
- ทภ.1 และ ทบ.ส่วนกลาง วันที่ 16 – 17 ม.ค. 56 ณ ยศ.ทบ.
- ทภ.2 วันที่ 24 – 25 ม.ค. 56 ณ ค่ายสุรนารี จว.นครราชสีมา
- ทภ.3 วันที่ 21 – 22 ม.ค. 56 ณ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จว.พิษณุโลก
- ทภ.4 วันที่ 13 – 14 ม.ค. 56 ณ ค่ายวชิราวุธ จว.นครศรีธรรมราช
5.3 ดาวน์โหลดระเบียบการและตัวอย่างใบสมัครจากเว็บไซต์ www.infantry-center.com

ข้อ 6. การสมัครสอบ
6.1 เขียนใบสมัครสอบให้ถูกต้องและชัดเจน ตามแบบตัวอย่างที่หน่วยรับสมัครติดไว้ และหลักฐาน ที่นามาใช้สมัครสอบต้องเป็นหลักฐานที่เป็นจริง ถ้าหากตรวจพบว่าเอกสารเป็นเท็จ จะต้องถูกดาเนินคดี ตามกฎหมายจนถึงที่สุด
6.2 ให้ตรวจสอบความถูกต้องของใบสมัครสอบกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ก่อนยื่นหลักฐานใบสมัครสอบ
6.3 ยื่นหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล เพื่อออกบัตรประจำตัวสอบ
6.4 ตรวจสอบความถูกต้องของบัตรประจำตัวสอบ พร้อมกับรับเอกสารประกอบการสมัครสอบฉบับจริงคืน(กรรมการรับสมัครสอบจะเก็บเฉพาะฉบับสำเนาไว้เป็นหลักฐาน)
6.5 เมื่อได้รับบัตรประจำตัวสอบแล้วต้องจาหมายเลขประจำตัวสอบไว้และนาติดตัวตลอดในห้วงการสอบ ถ้าไม่มีบัตรประจำตัวสอบไปแสดงต่อคณะกรรมการ “จะไม่มีสิทธิเข้าสอบ”
6.6 ตรวจสอบเอกสารฉบับจริงอีกครั้ง หากยังไม่ได้รับคืน ให้ติดตามสอบถามกับกรรมการรับสมัครสอบ ในวันนั้น หากมีเอกสารสาคัญสูญหายไป คณะกรรมการไม่สามารถรับผิดชอบได้
6.7 กรณีทำบัตรประจาตัวสอบหาย ให้แจ้งความที่สถานีตำรวจ จากนั้นนำหลักฐานใบรายงานประจำวัน รับแจ้งเอกสารหาย, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ยื่นเรื่องที่ กองกำลังพล ศูนย์การทหารราบ เพื่อขออนุมัติ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ (ประธานคณะกรรมการสอบคัดเลือก) ออกบัตรแทน

ข้อ 7. การสอบคัดเลือกภาควิชาการ (รายละเอียดเพิ่มเติมตาม ผนวก ก)
7.1 สถานที่สอบ จะแจ้งให้ทราบในวันรับสมัคร
7.2 วัน เวลาสอบ 16 ก.พ. 56
7.2.1 รายงานตัวเวลา 08.00 น. – 09.30 น.
7.2.2 สอบคัดเลือกเวลา 10.00 น. – 12.00 น.
7.3 การเตรียมตัวของผู้สมัครสอบ
7.3.1 ตรวจสอบที่นั่งสอบที่ระบุในบัตรประจาตัวสอบ
7.3.2 แต่งกายชุดสุภาพ รองเท้าหุ้มส้น ห้ามสวมเสื้อยืดรองเท้าแตะ
7.3.3 ให้นาดินสอดำอย่างอ่อน (2 บี) และยางลบ มาใช้ทำข้อสอบด้วย

7.4 การเข้าห้องสอบ
7.4.1 เวลา 08.00 น. ให้พร้อมที่หน้าห้องสอบของตัวเองเข้าแถวเรียงตามลาดับหมายเลขประจำตัวสอบ
7.4.2 ห้าม นำอุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอบ เช่น เครื่องคิดเลข, นาฬิกาที่เป็นเครื่องคิดเลข, โทรศัพท์มือถือ, เพจเจอร์ หรือเครื่องมือสื่อสารแบบพกพาทุกชนิด เข้าไปในห้องสอบโดยเด็ดขาด
7.4.3 กรรมการควบคุมการสอบจะเรียกเข้าห้องสอบตามลาดับ ให้นั่งตามผังที่นั่งสอบและผู้สมัครสอบจะต้องเตรียม “บัตรประจำตัวสอบ” และ “บัตรประจำตัวประชาชน” ไว้รับตรวจด้วย
7.4.4 เมื่อแจกปัญหาสอบและใบคำตอบแล้ว ห้าม เปิดปัญหาสอบก่อนที่หัวหน้าคณะกรรมการจัดการสอบสั่ง (หากมีข้อสงสัยให้ยกมือถามกรรมการจัดการสอบ)
7.4.5 เมื่อเริ่มทำข้อสอบแล้วจะไม่อนุญาตให้ผู้มาสายเข้าห้องสอบทุกกรณี และผู้ที่เข้าสอบจะต้อง อยู่ในห้องสอบจนครบตามเวลาที่กำหนด จะออกจากห้องสอบก่อนเวลาไม่ได้
7.4.6 ห้าม นั่งผิดจากหมายเลขที่นั่งสอบของตนเองหรือลงหมายเลขประจำตัวสอบที่ไม่ใช่หมายเลขประจาตัวของตนเองในใบคาตอบ (กรณีนี้ จะถือว่ามีเจตนาทุจริตในการสอบ)
7.4.7 ห้าม แสดงกริยาที่อาจจะส่อไปในทางทุจริต ทุกกรณี
7.5 คำแนะนำในการเขียนใบคาตอบแบบ เลือกข้อ
7.5.1 ฟังคำแนะนาในการเขียนใบคำตอบของกรรมการจัดการสอบให้เข้าใจ
7.5.2 ให้ระบายทึบด้วยดินสอดำให้เต็มช่องในช่องที่เลือกตอบเพียงช่องเดียว (ห้ามใช้หมึกระบาย)
7.6 เมื่อหมดเวลาสอบ ให้วางเอกสารปัญหาสอบและกระดาษใบคาตอบไว้บนโต๊ะ ห้ามนำออกจาก ห้องสอบเป็นอันขาด (หากฝ่าฝืนจะถือว่ามีเจตนาทุจริตในการสอบ)

ข้อ 8. กำหนดการประกาศผลสอบภาควิชาการ (รอบแรก)
วันที่ 20 ก.พ. 56 เวลา 08.00 น. – 16.00 น. โดยปิดประกาศ ณ แหล่งสมาคมนายทหารค่ายธนะรัชต์ และเว็บไซต์ ศร. (www.infantry-center.com)

ข้อ 9. การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และสอบสัมภาษณ์
ผู้ที่มีรายชื่อประกาศผลสอบผ่านภาควิชาการ (รอบแรก) เท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์สอบในรอบสองซึ่งจะใช้เวลา ทำการทดสอบติดต่อกัน 4 วัน โดยจะต้องเข้ารับการทดสอบให้ครบทุกขั้นตอน หากไม่ดำเนินการตามที่กำหนดแล้ว จะมีผลการทดสอบเป็น “ไม่ผ่านการทดสอบ”

9.1 การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย (คะแนนเต็ม 20 คะแนน) วันที่ 23 – 24 ก.พ. 56 เวลา 06.00 น. – 12.00 น. และ 13.00 น. – 16.00 น. (ท่าทดสอบและคะแนนตาม ผนวก ข)
9.2 การสอบสัมภาษณ์ (คะแนนเต็ม 30 คะแนน) ณ อาคารกองการศึกษา โรงเรียนทหารราบ ศูนย์การทหารราบ (3) ชั้น 2 และชั้น 3 วันที่ 25 – 26 ก.พ. 56 เวลา 09.00 น. – 12.00 น. และ 13.00 น. – 16.00 น. (รายละเอียดตาม ผนวก ก)

ข้อ 10. การประกาศผลสอบเมื่อทดสอบแล้วเสร็จทุกขั้นตอน (ขั้นสุดท้าย)
10.1 วันที่ 28 ก.พ. 56 เวลา 08.00 น. – 16.00 น. โดยปิดประกาศ ณ แหล่งสมาคมนายทหารค่ายธนะรัชต์ และเว็บไซต์ ศร. (www.infantry-center.com)
10.2 ผู้ที่สอบได้คะแนนรวมสูงสุด (ภาควิชาการ) และผ่านเกณฑ์การทดสอบ (รอบสอง) ทุกขั้นตอน
จะได้รับการประกาศชื่อเพื่อเข้ารับการฝึกอบรม และบรรจุเป็นนายทหารประทวนอัตรา ส.อ. รับเงินเดือน ป.1 ชั้น 8.5 จานวน 200 คน และจะประกาศบุคคลสารองไว้สารองอีกจานวน 100 คน
10.3 กรณีมีผลการทดสอบ “คะแนนรวมเท่ากัน” คณะกรรมการดาเนินงาน จะพิจารณาคะแนน
วิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ความรู้ทั่วไป และคณิตศาสตร์ ตามลาดับ
ข้อ 11. การรายงานตัวและทาสัญญา
รายงานตัวและทาสัญญา ณ แหล่งสมาคมนายทหารค่ายธนะรัชต์ วันที่ 2 – 5 มี.ค. 56 เวลา 08.00 น. – 16.30 น. ดังนี้
- ผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกลาดับที่ 1 – 60 รายงานตัว ฯ ในวันที่ 2 มี.ค. 56
- ผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกลาดับที่ 61 – 120 รายงานตัว ฯ ในวันที่ 3 มี.ค. 56
- ผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกลาดับที่ 121 – 200 รายงานตัว ฯ ในวันที่ 4 มี.ค. 56
- บุคคลสารองลาดับที่ 1 – 100 และผู้ที่ตกค้างการรายงานตัว ฯ ในวันที่ 2 – 4 มี.ค. 56 รายงานตัว ฯ ในวันที่ 5 มี.ค. 56

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น